เป็นการเป็นตัวแทนหรือทนายความว่าความและดำเนินกระบวนการทางศาลให้กับลูกความในกรณีพิพาทต่าง ๆ ครอบคลุมทุกประเภทคดี เช่น คดีแพ่ง, คดีอาญา, คดีครอบครัว, คดีแรงงาน, คดีทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น โดยทนายความจะดำเนินคดีให้ตั้งแต่ศาลชั้นต้นจนถึงศาลฎีกาตามความจำเป็น
กระบวนการทำงาน : ทนายความจะเริ่มจากการให้คำปรึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับแนวทางคดี, ยกร่างฟ้องหรือคำให้การ, รวบรวมพยานหลักฐาน, ยื่นคำฟ้องหรือคำให้การต่อศาล จากนั้นเข้าร่วมการพิจารณาคดีในศาลตามขั้นตอน (ไต่สวน, สืบพยาน) จนศาลมีคำพิพากษา และหากชนะคดีอาจต้องดำเนินการบังคับคดี (เช่น ยึดทรัพย์หรือดำเนินการตามคำพิพากษา) เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งศาลอย่างสมบูรณ์
ความแตกต่างที่สำคัญ : เป็นการแก้ไขข้อพิพาทเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้ว (หลังเกิดเหตุ) ต่างจากบริการอื่นที่เน้นป้องกันล่วงหน้า; กระบวนการเป็นทางการและเคร่งครัดตามที่กฎหมายกำหนด, ใช้เวลาและทรัพยากรมากกว่า(ต้องผ่านขั้นตอนศาลหลายชั้น) และผลลัพธ์สุดท้ายขึ้นกับคำตัดสินของศาล ซึ่งแตกต่างจากการเจรจาหรือให้คำปรึกษาที่ผลลัพธ์ขึ้นกับการตกลงหรือการตัดสินใจของคู่กรณีเอง